ฟันที่เรียงตัวสวย ไม่เพียงแต่จะเป็นส่วนหนึ่งของรอยยิ้มที่มั่นใจ แต่ยังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสุขภาพช่องปากให้แข็งแรง ทั้งจากประสิทธิภาพการสบฟันที่ดีขึ้น พร้อมการช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคในบริเวณฟันที่เป็นสาเหตุสำคัญของโรคที่เกิดในช่องปาก
ในปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีการจัดฟันได้พัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ทางเลือกในการจัดฟันมีมากขึ้น จากปกติที่จะมีเพียงแต่การจัดฟันลวดโลหะ แต่ตอนนี้ ทุกคนยังสามารถเลือกจัดฟันดามอน กับ จัดฟันแบบใสได้เช่นกัน แล้วการจัดฟันทั้งหมดนี้จะแตกต่างกันอย่างไร มาทำความรู้จักกับทุกรายละเอียดของทั้ง 3 วิธีจัดฟันเหล่านี้ไปพร้อมกัน เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถเลือกเส้นทางไปสู่รอยยิ้มที่ต้องการได้อย่างเหมาะสม

เข้าใจการจัดฟันลวดโลหะ

การจัดฟันลวดโลหะ (Metal Braces) คือ การจัดฟันที่ทันตแพทย์จะทำการติดตั้งเครื่องมือจัดฟันโลหะที่เรียกว่าแผ่นแบร็กเก็ต (Brackets) ที่บริเวณผิวฟันด้านหน้า ซึ่งเส้นแนวที่ใช้ติดตั้งเครื่องมือจะแตกต่างกันไปตามการเรียงตัวของฟันและแนวทางการรักษาที่ทันตแพทย์วางแผนเอาไว้
หลังจากที่ติดตั้งเครื่องมือเรียบร้อยแล้ว ทันตแพทย์จะใช้ลวดโลหะ (Archwires) ร้อยไปตามเครื่องมือจัดฟัน เพื่อให้ตัวลวดช่วยเคลื่อนฟันไปตามทิศทางที่ต้องการและเรียงตัวกันเป็นระเบียบมากขึ้น จากนั้นจึงใช้ตัวยึด (Ligatures) หรือ ยางรัดฟัน (O-rings) ยึดลวดโลหะให้เข้ากับแผ่นแบร็กเก็ต โดยในแต่ละเดือน ผู้ที่จัดฟันลวดโลหะสามารถเปลี่ยนสียางยึดได้ตามความต้องการ
แต่ในระหว่างการจัดฟัน ทันตแพทย์อาจมีการใช้เครื่องมืออื่น ๆ ในการรักษาร่วมด้วย เช่น อาจมีการใช้น็อตเจาะเหงือกตามจุดต่าง ๆ จากนั้นจึงใช้ยางพาดไปกับน็อตเพื่อเป็นตัวช่วยดึงให้ฟันเข้าที่และเรียงตัวตามแผนที่วางไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการเลือกเครื่องมือการรักษาร่วมจะขึ้นอยู่กับลักษณะฟันเฉพาะบุคคล

ข้อดีของการจัดฟันลวดโลหะ

การจัดฟันแบบโลหะช่วยแก้ปัญหาการเรียงตัวของฟันได้อย่างครอบคลุมมากที่สุดวิธีหนึ่ง ซึ่งสามารถช่วยแก้ปัญหาฟันไม่สบกันให้พอดีได้ รวมถึงลักษณะฟันซ้อน ฟันเก ฟันยื่น ฟันห่าง อีกทั้งยังสามารถรักษาภาวะฟันล่างคร่อมฟันบนร่วมกับการผ่าตัดกระดูกกรามได้เช่นกัน

ข้อควรระวังของการจัดฟันลวดโลหะ

เครื่องมือจัดฟันแบบโลหะอาจเข้าไปเกี่ยวเนื้อเยื่อตามจุดต่าง ๆ ในช่องปากจนเกิดเป็นแผลร้อนในและการอักเสบได้ นอกจากนี้ ผู้ที่จัดฟันด้วยเครื่องมือโลหะยังควรรักษาความสะอาดของเครื่องมืออยู่เป็นประจำ เนื่องจากเครื่องมือจัดฟันโลหะมีซอกมุมที่เข้าไปทำความสะอาดได้ยาก จนอาจกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคในช่องปากได้
นอกจากนี้ ผู้ที่จัดฟันแบบลวดโลหะยังต้องเข้ารับการปรึกษากับทันตแพทย์เป็นประจำ เพื่อทำการตรวจเช็กสภาพฟัน ตรวจสอบความผิดปกติที่เกิดขึ้น ไปจนถึงดูแลรักษาเครื่องมือในแง่มุมต่าง ๆ เพื่อคงประสิทธิภาพในการรักษาเอาไว้อย่างต่อเนื่อง

รู้จักการจัดฟันดามอน

Damon System หรือ การจัดฟันดามอน คือ การจัดฟันโดยใช้เครื่องมือติดแน่นแบบไม่ใช้ยางรัด ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่คิดค้นโดยทันตแพทย์อย่าง Dwight Damon โดยการจัดฟันดามอนจะแตกต่างจากการจัดฟันแบบลวดโลหะทั่วไปอยู่หลายจุด เช่น
  • แผ่นแบร็กเก็ต (Brackets) จะเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ที่มีชื่อเรียกว่า Sliding Bracket ที่ช่วยลดแรงเสียดทานของเครื่องมือในขณะที่ฟันกำลังเคลื่อนตัว
  • ลวดจัดฟัน (Archwires) จะเปลี่ยนมาใช้ Hi-Tech Light-Force Archwires หรือ Space-Age Archwires ชนิดพิเศษที่มีความลื่นสูง ทำให้ออกแรงดึงฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ นุ่มนวล ทั้งยังสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น
  • ตัวยึด (Ligatures) จากปกติที่จะใช้ยางธรรมดา จะเปลี่ยนมาเป็นการใช้บานล็อกแบบเปิดและปิด ซึ่งช่วยลดการสะสมของหินปูน และง่ายต่อการทำความสะอาดยิ่งขึ้น

ข้อดีของการจัดฟันดามอน

จากหลักการทำงานข้างต้นอาจกล่าวได้ว่า การจัดฟันดามอน คือ นวัตกรรมการจัดฟันสมัยใหม่ที่มีประสิทธิภาพในเรื่องของการปรับรูปหน้าให้เข้าที่ ทั้งยังช่วยลดแผลและแรงเสียดทานที่เกิดขึ้นในช่องปากจากการจัดฟันด้วยลวดโลหะได้
นอกจากนี้ เครื่องมือและลวดชนิดใหม่ที่ใช้ในการจัดฟันแบบดามอนยังมีความทนทานสูง ทำให้ไม่จำเป็นที่จะต้องไปพบทันตแพทย์ทุกเดือน อีกทั้งเครื่องมือดังกล่าวยังมีความยืดหยุ่นสูง ช่วยออกแรงดึงฟันอย่างนุ่มนวลและมีประสิทธิภาพ ทำให้ลดระยะเวลาในการจัดฟันลงไปได้ จนหลายคนอาจเข้าใจว่า การจัดฟันดามอน คือ การจัดฟันแบบเร่งด่วนนั่นเอง

ข้อควรระวังของการจัดฟันดามอน

อย่างไรก็ดี การจัดฟันแบบดามอนมีข้อเสียในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงกว่าการจัดฟันด้วยลวดโลหะ ทั้งยังไม่สามารถเปลี่ยนสียางตามแฟชั่นได้เหมือนกับการจัดฟันทั่วไป ซึ่งอาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกเบื่อได้
ที่สำคัญ ถึงจะง่ายต่อการทำความสะอาด แต่หากไม่ทำความสะอาดเครื่องมือจัดฟันแบบดามอนให้ดีก็อาจทำให้เกิดคราบหินปูนสะสมที่แผ่นแบร็กเก็ต ส่งผลให้ลวดไม่สามารถเคลื่อนตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการในระยะเวลาที่วางแผนไว้ได้เช่นกัน
การจัดฟันแบบใสดีอย่างไร

การจัดฟันใส

การจัดฟันแบบใส (Invisalign) คือ การจัดฟันโดยใช้เครื่องมือที่ออกแบบและหล่อขึ้นมาตามรูปฟันของแต่ละคนด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเครื่องมือจัดฟันใสจะเป็นพลาสติก มีแผ่นโพลีเมอร์มาครอบบนฟันตามจุดต่าง ๆ ที่แพทย์ได้ทำการกำหนดไว้ เมื่อใส่เครื่องมือจัดฟันใสเข้าไป แผ่นโพลีเมอร์ดังกล่าวจะเป็นตัวช่วยเคลื่อนฟันไปยังตำแหน่งที่ต้องการ ทั้งยังช่วยควบคุมแรงกดที่บริเวณฟันได้อีกด้วย
โดยปกติแล้ว การจัดฟันแบบใสจะมีการเปลี่ยนเครื่องมือไปเรื่อย ๆ ตามระยะฟันที่เคลื่อน ซึ่งโดยปกติฟันจะเคลื่อนตัวได้ประมาณ 0.25 มิลลิเมตรต่อแผ่นโพลีเมอร์ หรือที่ทันตแพทย์จะนิยมเรียกว่า Aligner ซึ่งเมื่อแผ่นโพลีเมอร์มีอายุการใช้งานครบ 7 – 14 วันก็จะต้องเปลี่ยนแผ่นโพลีเมอร์ หรือ Aligner ชิ้นใหม่ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะจบการรักษา

ข้อดีของการจัดฟันใส

การจัดฟันแบบใสเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่ครอบคลุมปัญหาการเรียงฟันแทบจะทุกรูปแบบ ตั้งแต่ปัญหาฟันเรียงตัวซับซ้อนมากไปจนถึงเคสที่มีฟันเกเล็กน้อย นอกจากนี้ การจัดฟันแบบใสยังใช้เวลาในการจัดฟันที่น้อยกว่าวิธีอื่น โดยบางเคสที่มีความซับซ้อนก็สามารถเริ่มเห็นฟันที่เรียงตัวเป็นระเบียบขึ้นได้ภายใน 6 – 12 เดือน
นอกจากนี้ หากเปรียบเทียบการจัดฟันดามอนกับการจัดฟันแบบใสแล้ว การจัดฟันแบบใสถือเป็นวิธีการจัดฟันที่กระทบต่อการใช้ชีวิตน้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องมือใสและมีสีเทียบเท่ากับฟัน อีกทั้งยังไม่มีอุปกรณ์ลวดเหล็กที่อาจทำให้เกิดแผลในช่องปากได้ ที่สำคัญ ตัวเครื่องมือยังสามารถถอดเข้าและออกได้ตามต้องการ ทำให้สะดวกต่อการทำความสะอาด การรับประทานอาหาร และใช้ชีวิตในด้านอื่น ๆ อีกด้วย

ข้อควรระวังของการจัดฟันใส

การจัดฟันใสให้เห็นผลลัพธ์และมีประสิทธิภาพ ผู้ที่เข้าทำการรักษาจะต้องใส่เครื่องมืออย่างน้อย 22 ชั่วโมง/วันเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังต้องหมั่นทำความสะอาดอุปกรณ์ให้ดี เพราะตัวอุปกรณ์ที่ครอบฟันอีกทีอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้ ที่สำคัญ การจัดฟันแบบใสมีราคาค่ารักษาและอุปกรณ์ที่ค่อนข้างสูงตามปัญหาและความซับซ้อนของฟัน ซึ่งหากฟันยิ่งมีความซับซ้อนในการรักษามากเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายก็อาจสูงขึ้นตามได้

สรุปชัด! การจัดฟันแต่ละวิธีแตกต่างกันอย่างไร?

สำหรับใครที่ยังคงสงสัยว่า การจัดฟันลวดโลหะ การจัดฟันดามอน กับ การจัดฟันแบบใสแตกต่างกันอย่างไร ลองมาพิจารณาสรุปรายละเอียดการจัดฟันแต่ละรูปแบบตามตารางด้านล่างนี้ได้เลย
การจัดฟัน อุปกรณ์ ข้อดี ข้อควรระวัง
การจัดฟันโลหะ
  • แผ่นแบร็กเก็ต (Brackets)
  • ลวดจัดฟัน (Archwires)
  • ตัวยึด (Ligatures)
  • รักษาการเรียงตัวของฟันได้หลากหลายรูปแบบ
  • ราคาไม่สูงมาก
  • เครื่องมืออาจทำให้ช่องปากเป็นแผลได้
  • ใช้เวลารักษานาน
  • ต้องเปลี่ยนตัวยึดทุกเดือน
  • ทำความสะอาดได้ยาก
การจัดฟันดามอน
  • Sliding Bracket
  • Hi-Tech Light-Force Archwires หรือ Space-Age Archwires
  • ตัวยึดแบบบานล็อกเปิดปิด
  • เห็นผลได้รวดเร็ว
  • รักษาได้หลายเคส
  • ลดแผลในช่องปากและแรงเสียดทานที่ฟัน
  • ช่วยปรับรูปหน้าให้เข้าที่
  • ไม่ต้องพบทันตแพทย์บ่อย
  • เครื่องมือมีสีเดียว
  • ราคาสูง
การจัดฟันใส
  • ชุดเครื่องมือจัดฟันแบบใส ตามจำนวนที่ทันตแพทย์กำหนด
  • ไม่เป็นที่สังเกต
  • สะดวกต่อการใช้ชีวิต
  • ถอดและใส่ได้ตามต้องการ
  • ลดแผลในช่องปากและแรงเสียดทานที่ฟัน
  • ทำความสะอาดง่าย
  • ไม่ทำให้เกิดแผลในปาก
  • ต้องใส่ให้ได้อย่างน้อย 22 ชั่วโมง/วัน
  • ราคาสูง

เพียงเท่านี้ ทุกคนก็เข้าใจถึงความแตกต่าง ตลอดจนทราบแล้วว่า การจัดฟันลวดโลหะ การจัดฟันดามอน กับ การจัดฟันแบบใสนั้นดีอย่างไรบ้าง หวังว่าทุกรายละเอียดที่นำมาฝากนี้จะช่วยทำให้ทุกคนได้เห็นภาพวิธีการจัดฟันแบบต่าง ๆ ได้มากขึ้น พร้อมเข้าใจการรักษาปัญหาการเรียงตัวของฟันที่ทันตแพทย์เลือกใช้ได้

สำหรับใครที่ต้องการคำปรึกษาเรื่องการจัดฟันใสโดยเฉพาะ ClearCorrect พร้อมช่วยตอบทุกข้อสงสัยและแนะนำแนวทางการจัดฟันใสอย่างมีประสิทธิภาพกับ ClearQuartz อุปกรณ์จัดฟันจากอเมริกาที่คิดค้นโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยตัวอุปกรณ์มาพร้อมกับความใสที่เข้ากับธรรมชาติของสีฟัน รองรับปัญหาฟันที่หลากหลาย เคลื่อนฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความสบายของผู้ใส่เป็นหลัก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-109-1234
Tags :
Share This :